ตอนที่ 3
ความก้าวล้ำของกลไก Spring Drive กับพลังงานสำรองนานถึงแปดวัน
กลไก Spring Drive ที่ออกแบบเฉพาะสำหรับ Grand Seiko และสร้างสรรค์อย่างประณีตโดยช่างผู้เชี่ยวชาญจาก Micro Artist Studio
ด้วยนวัตกรรมกลไกและงานตกแต่งที่ประณีตด้วยมือ กลไกรุ่น 9R01 และ 9R02 ได้รับการพัฒนาสำหรับคอลเลกชันระดับ Masterpiece ของ Grand Seiko โดยแต่ละรุ่นใช้วิธีที่แตกต่างกันในการยืดระยะเวลาการสำรองพลังงาน: รุ่น 9R01 ใช้กระปุกลาน 3 ชุดที่เชื่อมต่อกันเป็นลำดับ ทำให้กลไกสามารถเดินได้ต่อเนื่องนานถึง 8 วัน รุ่น 9R02 ใช้ระบบ Torque Return ซึ่งจะนำแรงบิดส่วนเกินจากกลไก Spring Drive กลับมาใช้หมุนลานใหม่โดยอัตโนมัติ ทำให้ได้พลังงานสำรองยาวนานถึง 84 ชั่วโมง
กลไกทั้งสองรุ่นผลิตที่ Micro Artist Studio ซึ่งก่อตั้งในปี 2000 ภายใน Shinshu Watch Studio ของ Seiko Epson ที่เมือง Shiojiri จังหวัดนากาโนะ โดยที่นี่เป็นที่รวมของช่างฝีมือระดับสูงที่สุด ซึ่งทุ่มเทสร้างนาฬิกาหรูของญี่ปุ่นที่งดงามและเปี่ยมคุณภาพในทุกขั้นตอน.
พลังงานสำรองนานถึง 8 วัน กับแรงบันดาลใจจากธรรมชาติอันงดงาม
ความเที่ยงตรงของนาฬิกาเป็นสิ่งที่เราอาจไม่สังเกตในทุกวัน จนกระทั่งวันหนึ่งที่มันเริ่มแสดงให้เห็นถึงความต่าง ด้วยเหตุนี้ ทีมพัฒนาจึงเชื่อว่าการมีพลังงานสำรองที่ยาวนาน จะช่วยให้นาฬิกาสามารถแสดงศักยภาพของเทคโนโลยี Spring Drive ได้อย่างเต็มที่ และเพราะวิถีชีวิตของคนในยุคปัจจุบันดำเนินไปตามรอบสัปดาห์ พวกเขาจึงตั้งเป้าที่จะยืดเวลาสำรองพลังงานจาก 7 วัน เป็น 8 วัน
Caliber 9R01 เปิดตัวครั้งแรกในปี 2016 โดยเป็นกลไกเรือนแรกที่พัฒนาขึ้นเฉพาะสำหรับ Grand Seiko ภายใน Micro Artist Studio มาพร้อมกระปุกลาน 3 ชุด ที่ให้พลังงานสำรองนานถึง 8 วัน และความงดงามที่น่าทึ่ง ทั้งในด้านประสิทธิภาพและงานศิลป์ ถือเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญของกลไก Spring Drive แบบไขลาน โดยกระปุกลานทั้งสามชุดถูกจัดเรียงต่อเนื่องกันเพื่อลดการสูญเสียพลังงานระหว่างการส่งผ่าน ขณะที่รูปลักษณ์ภายนอกก็เปี่ยมด้วยรายละเอียดอันวิจิตรงดงาม แผ่นบริดจ์หลักของกลไกได้รับการออกแบบให้สะท้อนเส้นขอบของภูเขาไฟฟูจิที่มองเห็นได้จากที่ราบสูงทากาโบจิใกล้ Micro Artist Studio ล้อ Glide Wheel สื่อถึงดวงอาทิตย์ ทับทิมภายในกลไกเปรียบเสมือนแสงไฟระยิบระยับของเมืองซูวะ และเข็มแสดงพลังงานสำรองก็ได้แรงบันดาลใจมาจากรูปทรงของทะเลสาบซูวะ.
ช่างฝีมือจะลงลายเส้นตรงบนผิวของแผ่นบริดจ์ด้วยมือ ซึ่งเรียกว่าการขัดแบบ Hairline Finish ส่วนขอบของชิ้นส่วนนั้นถูกขัดเงาอย่างประณีตทีละชิ้นด้วยมือเช่นกัน ขณะเดียวกัน สกรูทุกตัวถูกผ่านกระบวนการเผาจนได้เฉดสีน้ำเงินที่สวยงาม ผลลัพธ์ที่ได้คือความสมดุลอย่างลงตัวระหว่างสมรรถนะและความงดงาม.
สุดยอดแห่งงานฝีมือ: ผสานกลไกพลังงานสำรองยาวนานไว้ในดีไซน์ที่บางเฉียบ
เมื่อ Micro Artist Studio พัฒนา Caliber 9R02 ในปี 2019 พวกเขาได้สร้างสรรค์ผลงานอันน่าทึ่งทั้งด้านการออกแบบและวิศวกรรม โดยกลไกรุ่นนี้สามารถสำรองพลังงานได้ยาวนานถึง 84 ชั่วโมง แต่มีความหนาเพียง 4 มิลลิเมตร ทำให้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับนาฬิกาเดรสที่มีดีไซน์บางและสัดส่วนแบบคลาสสิก.
Caliber 9R02 สามารถเดินได้ยาวนานถึง 84 ชั่วโมงเมื่อไขลานเต็ม ด้วยเทคโนโลยี Dual Spring Barrel และระบบ Torque Return ที่ช่วยนำพลังงานส่วนเกินซึ่งมักจะสูญเปล่ากลับมาใช้ใหม่ กลไกรุ่นนี้ไม่เพียงแต่ออกแบบทางวิศวกรรมได้อย่างยอดเยี่ยมเท่านั้น แต่ยังโดดเด่นในด้านความสวยงามที่ประณีตไม่แพ้กัน รายละเอียดต่าง ๆ เช่น ลวดลายดอกเบลล์ฟลาวเวอร์ (ซึ่งเป็นดอกไม้ประจำเมืองชิโอจิริ) บนตัวลาน ลายเส้น Hairline Finish บนบริดจ์ และการขัดเงาขอบชิ้นส่วน ล้วนมีคุณภาพระดับเดียวกับกลไก Caliber 9R01 และที่โดดเด่นเป็นพิเศษคือ “มุมด้านใน” ของบริดจ์ขนาดใหญ่ในกลไกนี้ ซึ่งถือเป็นงานฝีมือขั้นสูงสุดในโลกของการทำนาฬิกา.
ฝาหลังตัวเรือนแบบคริสตัลแซฟไฟร์เปิดให้เห็นกลไกภายในได้อย่างชัดเจน ทำให้นาฬิกาเรือนนี้เปรียบเสมือนงานศิลป์อันน่าหลงใหลที่เจ้าของจะอยากชื่นชมไปได้อีกนานแสนนาน.
Masterpiece Collection
SBGD201
Caliber 9R01 เป็นกลไกที่ขับเคลื่อนรุ่น SBGD201 จากคอลเลกชัน Masterpiece โดยตัวเรือนผลิตจากแพลตตินัม 950 และผ่านการขัดเงาด้วยเทคนิค Zaratsu แบบใหม่ ซึ่งให้ผิวสัมผัสที่งดงามพร้อมขอบเหลี่ยมคมชัด ซึ่งก่อนหน้านี้ทำไม่ได้กับตัวเรือนแพลตตินัม หน้าปัดมีพื้นผิวที่ได้แรงบันดาลใจจากเกล็ดน้ำแข็ง เหมือนแสงยามเช้าในฤดูหนาวที่เมืองซูวะ มาพร้อมการตกแต่งแบบพิเศษที่ช่วยให้สามารถอ่านค่าเวลาได้อย่างชัดเจน พร้อมทั้งเปล่งประกายความงามเมื่อกระทบกับแสง.
Masterpiece Collection
SBGZ003
ผลงานชิ้นเอกจากแพลตตินัมที่ขับเคลื่อนด้วยกลไก Caliber 9R02 โดยรุ่น SBGZ003 ได้ออกแบบให้ตัวบอกพลังงานสำรองอยู่ด้านหลังของตัวเครื่อง ทำให้สามารถมองเห็นผ่านกระจกแซฟไฟร์ด้านหลังได้อย่างชัดเจน
ขณะที่เข็มวินาทีเคลื่อนอย่างนุ่มนวลบนหน้าปัด ผู้สวมใส่จะสัมผัสได้ถึงการไหลของเวลาอย่างเป็นธรรมชาติในฤดูหนาว และความงดงามของธรรมชาติในสภาพที่บริสุทธิ์ที่สุด เข็มชั่วโมง เข็มนาที และหลักชั่วโมงทั้งหมดผลิตจากทองคำขาว 14 กะรัต ส่วนโลโก้ Grand Seiko, โลโก้ Spring Drive, มาร์คบอกนาที และสัญลักษณ์พิเศษที่ตำแหน่ง 6 นาฬิกา ล้วนเปล่งประกายระยิบระยับราวกับแสงที่สะท้อนบนผิวหิมะ.
With its eight days of power reserve and outstanding artistry, the SBGZ003 is a landmark timepiece in both function and beauty. As the ultimate fusion of Japan’s exceptional mechanical and quartz watch technologies, the evolution of Spring Drive is an ongoing story of continuous advancement.
