Mechanical Hi-Beat 36000
Caliber 9S85
ความท้าทายของการสรรค์สร้างตัวเครื่องแบบไฮบีทคือสิ่งหนึ่งที่ช่างประกอบนาฬิกาน้อยคนกล้าที่จะทำ ด้วยอัตราการสร้างสัญญาณความถี่ที่ 10 รอบต่อวินาทีซึ่งสูงกว่าความถี่ทั่วไป ทำให้ระบบนี้มีความแม่นยำระดับยอดเยี่ยม แต่ความเที่ยงตรงที่เพิ่มขึ้นนี้ต้องมีข้อแลกเปลี่ยน เพราะความเร็วในการหมุนที่เร็วขึ้นจะส่งผลกระทบต่อการสำรองพลังงาน รวมทั้งอายุการใช้งานของตัวเครื่องทั้งหมดด้วย ตัวเครื่องไฮบีทของ Grand Seiko จะตอบสนองต่อความท้าทายเหล่านี้ และมอบความแม่นยำที่ +5 ถึง –3 วินาทีต่อวัน สำรองพลังงานได้นาน 55 ชั่วโมง และความทนทานอย่างที่นาฬิกาทุกรุ่นของ Grand Seiko ขึ้นชื่อ Caliber 9S85 คือผลลัพธ์ของการพัฒนาอย่างยาวนานหลายปี รวมไปถึงการปรับปรุงทั้งด้านการออกแบบและการผลิตชิ้นส่วนกับวัสดุที่ใช้
ข้อมูลจำเพาะ
| ระบบขับเคลื่อน | อัตโนมัติ พร้อมกลไกการขึ้นลานด้วยมือ |
|---|---|
| ความแม่นยำ (เมื่อไม่เคลื่อนไหว) |
+5 ถึง -3 วินาทีต่อวัน หมายเหตุ: ความแม่นยำนี้เป็นผลมาจากการวัดความคลาดเคลื่อนของเวลาเป็นระยะเวลา 17 วันก่อนที่จะนำตัวเครื่องของนาฬิกาไปประกอบใส่ในตัวเรือน การวัดผลนี้กระทำขึ้นในโรงงานที่มีการควบคุมอุณหภูมิและตำแหน่งของตัวเครื่อง |
| ความแม่นยำในการใช้งานตามปกติ | +8 ถึง -1 วินาทีต่อวัน |
| การสำรองพลังงาน | ประมาณ 55 ชั่วโมง |
| รอบความถี่ | 36,000 รอบต่อชั่วโมง (10 รอบต่อวินาที) |
| อัญมณี | ทับทิม37 เม็ด |
ความท้าทายของตัวเครื่องแบบความถี่ 10 รอบ
แม้ว่าข้อได้เปรียบในเชิงทฤษฎีของตัวเครื่องแบบความถี่ 10 รอบนี้จะเป็นที่รู้จักกันอย่างดี แต่การจะสร้างนาฬิกาที่ทนทาน เชื่อถือได้ และมีความเที่ยงตรงกลับเป็นงานที่ยากมาก อุปสรรคหลัก ๆ สองอย่าง คือ การขับเคลื่อนเวลาและความทนทานของตัวเครื่อง จักรกรอกที่สร้างสัญญาณความถี่อย่างรวดเร็วจำเป็นต้องใช้พลังงานจำนวนมากจากลานสปริง ลานสปริงต้องสามารถส่งพลังงานที่เพียงพอให้จักรกรอกสามารถเคลื่อนไหวไปมาด้วยความเร็วสูงได้ ลานสปริงที่คดเคี้ยวต้องสามารถส่งแรงหมุนระดับสูงเป็นระยะเวลานานพอที่จะทำให้จักรกรอกมีพลังงานมากพอในการสำรองพลังงานที่มากยิ่งขึ้น ในขณะเดียวกัน กลไกฟันเฟืองที่ส่งสัญญาณความถี่จากจักรกรอกผ่านไปยังล้อเฟืองจะต้องมีความทนทานเช่นเดียวกับนาฬิการะบบกลไกอื่น ๆ ช่างเป็นความท้าทายที่เอาชนะได้ยากจริง ๆ
แฮร์สปริง
วัสดุใหม่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพพื้นฐาน
การใช้ประสบการณ์ที่สั่งสมมานานกว่า 50 ปีนับตั้งแต่การก่อตั้ง Grand Seiko วัสดุโลหะผสมรุ่นใหม่อย่าง Spron ได้ถูกพัฒนาขึ้นสำหรับแฮร์สปริง ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของตัวเครื่องนาฬิกา และประสิทธิภาพของมันเป็นตัวกำหนดความเที่ยงตรงของนาฬิกาในระยะยาว
หลังจากการพัฒนาเป็นระยะเวลาประมาณ 5 ปี วัสดุโลหะผสมแบบใหม่ที่เรียกว่า Spron 610 จึงถูกสร้างขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับโลหะผสมรุ่นก่อน ๆ นั้น Spron 610 สามารถป้องกันแรงกระแทกได้ถึงสองเท่า และสามารถป้องกันคลื่นแม่เหล็กได้มากกว่าถึงสามเท่า
ชุดกลไกควบคุมเวลา
ทคโนโลยี MEMS เพื่อปรับปรุงความเที่ยงตรงของชิ้นส่วน
วิศวกรรมความเที่ยงตรงคือหนทางไปสู่ความแม่นยำที่มีมากยิ่งขึ้นในนาฬิกาทุกเรือน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรุ่น Hi-Beat Caliber ต้องขอบคุณเทคโนโลยีที่ผ่านการพัฒนาจากภายในองค์กรเพื่อการผลิตอุปกรณ์กึ่งตัวนำ เอสเคปวีลและแพลเล็ทฟอร์คที่ใช้ใน Caliber 9S85 ถูกผลิตขึ้นด้วยความเที่ยงตรงที่ 1/10,000 มิลลิเมตร ด้วยเหตุนี้จึงมีประสิทธิภาพที่ดีขึ้นอย่างมาก ความลับคือ MEMS นั่นเอง MEMS (Micro Electro Mechanical System) คือเทคโนโลยีที่ช่วยให้ชิ้นส่วนที่สำคัญเหล่านี้มีน้ำหนักเบายิ่งขึ้น ทำงานได้ราบรื่นขึ้น และในส่วนของเอสเคปวีลก็ทำให้มีดีไซน์ที่ประณีตมากกว่า ดีไซน์ใหม่ของแพลเล็ทฟอร์คประกอบไปด้วยแอ่งกักเก็บน้ำมันที่ปลายทุกด้านของฟันเฟืองแต่ละชิ้น ปรับปรุงการกักเก็บน้ำมันซึ่งเป็นสิ่งที่เฟืองต้องใช้เพื่อการทำงานที่ราบรื่น
เมนสปริง
แรงบิดที่เพิ่มขึ้นเพื่อสัญญาณความถี่ที่สูงขึ้นและการสำรองพลังงานที่ยาวนานขึ้น
ตัวเครื่องแบบความถี่ 10 รอบต้องใช้เมนสปริงที่สามารถสร้างแรงหมุนระดับสูงเพื่อส่งพลังงานที่จำเป็นต้องใช้เพื่อเพิ่มอัตราการสร้างสัญญาณความถี่ที่เพิ่มขึ้น หลังจากระยะเวลาหกปีแห่งการพัฒนาโลหะผสมแบบใหม่ Spron 530 จึงถูกคิดค้นขึ้นสำหรับเมนสปริง ซึ่งสามารถส่งพลังงานได้มากกว่ารุ่นก่อน ๆ ประมาณ 6% และสำรองพลังงานได้นานขึ้น 5 ชั่วโมง ในขณะเดียวกันก็รักษาระดับการป้องกันการกัดกร่อน ความทนทาน และการป้องกันคลื่นแม่เหล็กไว้ดีเช่นเดิม เมนสปริงแบบใหม่สามารถสำรองพลังงานให้ตัวเครื่องแบบความถี่ 10 รอบของ Grand Seiko ได้นานถึง 55 ชั่วโมงเมื่อขึ้นลานจนเต็ม
อะไรทำให้ระบบ 9S Mechanical โดดเด่น
แนวคิดของ Grand Seiko เกิดขึ้นจากความต้องการที่จะสร้างนาฬิกาที่ดีที่สุดในโลก และคอลเล็กชั่นของเรายังคงทำให้ความเที่ยงตรงของนาฬิการะบบกลไกสามารถก้าวข้ามขีดจำกัดของเทคโนโลยีการจับเวลาได้อย่างต่อเนื่อง ในฐานะผู้ผลิตตัวจริง Grand Seiko ได้นำเอาเทคโนโลยีล่าสุดมาผสมผสานกับหัตถศิลป์ที่กว้างขวางเพื่อสรรค์สร้างงานศิลป์ด้านการประกอบนาฬิกาที่เหนือชั้น
