2023/03/27 ข่าวประชาสัมพันธ์

เพชร แซพไฟร์สีน้ำเงิน และแพลทินัม 950
ผลงานเอกชิ้นใหม่ของนาฬิกาประดับอัญมณีจาก Grand Seiko ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากสิงโตขาว.

บริเวณกลางหน้าปัด คือ เปลือกหอยมุกสีน้ำเงินอันเป็นสีสัญลักษณ์แห่ง Grand Seiko

รูปลักษณ์ที่ทรงพลังของสิงโต เป็นสัญลักษณ์ที่ยืนยงของ Grand Seiko มาตั้งแต่การเปิดตัว Grand Seiko แบบแรกในปี 1960 ด้วยเหรียญทองรูปสิงโตที่ประดับอยู่บนฝาหลังของตัวเรือน

งานแสดงนาฬิกา วอทเชส แอนด์ วันเดอร์ส เจนีวา 2022 Grand Seiko ได้นำเสนอนาฬิกาสปริงไดรฟ์ แบบประดับอัญมณีที่มีแรงบันดาลใจมาจากสิงโตขาวกันไปแล้ว วันนี้จึงเป็นการเปิดตัวผลงานเอกอีกชิ้นหนึ่งของนาฬิกาสปริงไดรฟ์ ที่ซึ่งความแข็งแกร่งและพลังแห่งสิ่งมีชีวิตแสนสง่างามนี้ถูกทำให้มีชีวิตขึ้นมาผ่านงานศิลปะของช่างทำอัญมณี หากแต่ครั้งนี้ได้ถูกประดับประดาด้วยแซพไฟร์สีน้ำเงินเพื่อเป็นเกียรติแก่สีอันเป็นสัญลักษณ์แห่ง Grand Seiko

การผสานรวมความแม่นยำของสปริงไดรฟ์ ความชัดเจนระดับสูงต่อการอ่านค่าด้วยอัญมณีที่ถูกจัดวางอย่างพิถีพิถัน ตลอดจนศิลปะและงานฝีมือสุดประณีต ทำให้การสร้างสรรค์อันโดดเด่นครั้งนี้ เป็นการแสดงออกในทุกวิถีทางของอุดมคติแห่ง Grand Seiko

ตัวเรือนและหน้าปัด ประดับเพชร 5.62 กะรัต และแซพไฟร์สีน้ำเงิน 1.25 กะรัต ทั้งหมดเป็นการประดับด้วยมือ

ขาตัวเรือนที่แข็งแรงและมีลักษณะเป็นเหลี่ยม แสดงถึงพลังของสิงโต เพชรไม่ต่ำกว่า 112 เม็ดถูกฝังอยู่ที่พื้นผิวด้านบนของตัวเรือน และมีเพชรเจียระไนทรงบาแกตต์ อีก 60 เม็ดประดับอยู่ที่วงขอบตัวเรือน เพชรทั้งหมดถูกประดับอย่างแม่นยำจนดูราวกับเป็นพื้นผิวเรียบชิ้นเดียวกัน เข็มวินาทีถูกให้ความร้อนจนเกิดเป็นสีเทาที่เข้ากับโทนสีโดยรวมได้อย่างสมบูรณ์ และมีการประดับแซพไฟร์สีน้ำเงินเจียระไน 1 เม็ดไว้ที่เม็ดมะยม

งานฝีมือระดับสูงสุด

บนหน้าปัดของนาฬิการุ่นนี้ แซพไฟร์สีน้ำเงินและเพชรทรงบาแกตต์ได้รับการตัดเจียรให้เป็นทรงสี่เหลี่ยมคางหมูเพื่อทำหน้าที่เป็นหลักชั่วโมงและหลักนาที ล้อมรอบแผ่นเปลือกหอยมุกที่ซึ่งความล้ำลึกและพื้นผิวได้สร้างพื้นที่อันเงียบสงบขึ้นที่ส่วนกลาง อัญมณีทั้งหมดนี้ถูกประดับด้วยมือลงบนพื้นที่ระหว่างคู่รางทองขาว 18K ที่มีขนาดบางมาก ๆ ด้วยทักษะระดับสูงของช่างอัญมณีแห่งสตูดิโอนาฬิกาชินชู ซึ่งตั้งอยู่ในโรงงานชิโอจิริ ในจังหวัดนากาโน่ อันเป็นสถานที่ผลิตนาฬิกา Grand Seiko สปริงไดรฟ์ เพชรอีก 48 เม็ด และแซพไฟร์สีน้ำเงินอีก 12 เม็ด ถูกติดตั้งไว้รายรอบหลักชั่วโมงและหลักนาทีเพื่อเพิ่มความลึกของมิติและความสวยงามให้กับหน้าปัด

ตัวเรือนได้รับการขัดด้วยกรรมวิธีซารัตสึ ที่พัฒนาขึ้นเป็นพิเศษสำหรับวัสดุแพลทินัม 950
เพื่อให้ได้พื้นผิวดุจกระจกเงาที่ปราศจากการบิดเบือนของภาพสะท้อน

กลไกสปริงไดรฟ์ ที่มากับพลังงาน 8 วัน และทิวทัศน์แห่งภูเขาฟูจิ

ฝาหลังแซพไฟร์ คริสตัล เผยให้เห็นการตกแต่งที่สวยงามของสะพานจักรแบบชิ้นเดียวของกลไก
ซึ่งถูกออกแบบเป็นรูปภูเขาฟูจิ

นาฬิการุ่นนี้ขับเคลื่อนด้วยกลไกสปริงไดรฟ์ คาลิเบอร์ 9R01 ซึ่งถูกสร้างขึ้นโดยคณะทำงานชั้นยอดจากนักประดิษฐ์นาฬิกาภายในสตูดิโอไมโคร อาร์ติสต์ ซึ่งตั้งอยู่ในโรงงานชิโอจิริ เช่นเดียวกับสตูดิโอนาฬิกาชินชู คาลิเบอร์ 9R01 ให้ความแม่นยำถึง ±10 วินาทีต่อเดือน และมอบพลังงานสำรองได้ถึง 8 วัน หรือเท่ากับ 192 ชั่วโมง ด้วยตลับลาน 3 ชุดที่ทำงานแบบเรียงลำดับ

ผลงานประดับอัญมณีชิ้นเอกรุ่นนี้ นำเสนอในแบบจำนวนจำกัดเพียง 8 เรือนเท่านั้น และจะถูกจัดแสดงที่ แกรนด์ ไซโก บูติก เพียงบางแห่งในเดือนมิถุนายน 2023

SBGD213 

Grand Seiko Masterpiece Collection
Spring Drive 8-Day Jewelry Watch: SBGD213

คาลิเบอร์ 9R01
ระบบขับเคลื่อน: ไขลาน
พลังงานสำรอง: 8 วัน (192 ชั่วโมง)
ความแม่นยำ: ±0.5 วินาทีต่อวัน (±10 วินาทีต่อเดือน)
มาตรแสดงพลังงานสำรอง
ปรับเข็มชั่วโมงแบบอิสระ
จำนวนทับทิม: 56
รายละเอียดทางเทคนิค
เพชร 266 เม็ด (94 เม็ดบนหน้าปัด 60 เม็ดบนวงขอบตัวเรือน 112 เม็ด บนตัวเรือน น้ำหนักรวม 5.62 กะรัต)
แซพไฟร์สีน้ำเงิน 27 เม็ด (26 เม็ดบนหน้าปัด 1 เม็ดที่เม็ดมะยม น้ำหนักรวม 1.25 กะรัต)
ตัวเรือนและตัวล็อกสาย แพลทินัม 950
กระจกแซพไฟร์ คริสตัล ชนิดผิวโค้งทั้ง 2 ฝั่ง พร้อมเคลือบกันแสงสะท้อน
ฝาหลังแบบเกลียว กรุกระจกใส
การกันน้ำ: 10 บาร์
ความต้านทานแม่เหล็ก: 4,800 แอมแปร์/เมตร
เส้นผ่านศูนย์กลาง: 44.5 มม.; ความหนา: 14.4 มม.
สายหนังจระเข้พร้อมตัวล็อกแบบบานพับ 3 ทบ ปลดล็อกด้วยปุ่มกด
ราคาจำหน่ายที่ไทย: 9,266,000 บาท
ผลิตจำนวนจำกัด 8 เรือน

ข้อมูลเพิ่มเติม:
www.grand-seiko.com/global-en/collections/sbgd213j

หมายเหตุ:
รายละเอียดทางเทคนิคและข้อมูลราคาในเอกสารประชาสัมพันธ์นี้ เป็นข้อมูล ณ วันที่เผยแพร่ และอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้