ดีเอ็นเอแห่งระบบการเคลื่อนไหวแบบรอบความถี่สูงของ Grand Seiko ถูกสร้างขึ้นด้วยความอุตสาหะในช่วงแห่งการทดสอบมาตรเวลาและได้ถูกส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่นมาจนถึงทุกวันนี้ ในปัจจุบัน เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพของส่วนประกอบแต่ละชิ้นให้ได้มากที่สุดและลดการเสียดสีกันของฟันเฟืองให้น้อยที่สุด Seiko ได้ใช้เทคโนโลยีการผลิตสำหรับชิ้นส่วนต่าง ๆ ที่มีขนาดเล็กมากที่เรียกว่า MEMS ซึ่งเป็นการนำเอาเทคโนโลยีการผลิตอุปกรณ์กึ่งตัวนำมาใช้ ด้วยการใช้รูแสงและโครงสร้างที่กักเก็บน้ำมันหล่อลื่นในเดือย ล้อกระเดื่อง และส่วนประกอบพื้นฐานอื่น ๆ Grand Seiko จึงประสบความสำเร็จในปี ค.ศ. 2009 ในการสร้างระบบการเคลื่อนไหวแบบรอบความถี่สูงขึ้นมาใหม่ทั้งหมด

มีเพียงไม่กี่แบรนด์ในอุตสาหกรรมนาฬิกาข้อมือที่ยอมรับความท้าทายที่น่าหวาดหวั่นของการสร้างระบบการเคลื่อนไหวแบบ 10 รอบ และ Grand Seiko คือหนึ่งในแบรนด์ที่ยอดเยี่ยมนี้ Grand Seiko ไม่เพียงแต่ใช้เทคโนโลยีในการผลิตชิ้นส่วนและประกอบนาฬิกาที่ระดับสุดยอดเท่านั้น แต่ Grand Seiko ยังนำธรรมเนียมแห่งการทุ่มเทเพื่อความเที่ยงตรงสูงสุดมาใช้ ซึ่งก่อตั้งขึ้นจาก V.F.A. ปี 1969

นับว่าเป็นสิ่งที่น่าสนใจที่ทราบว่าสัญลักษณ์ SPECIAL ที่ตำแหน่ง 6 นาฬิกามีเพื่อเป็นเกียรติแก่ GS SPECIAL ซึ่งมีคุณสมบัติอยู่ระหว่าง V.F.A. และกลุ่มผลิตภัณฑ์กระแสหลักของ Grand Seiko ในยุค 1970 ซึ่งเป็นการรับรองว่าเครื่องบอกเวลานี้ได้ผ่านการตรวจสอบตามมาตรฐาน Grand Seiko Special แล้ว ในโรเตอร์ของ Caliber 9S85 ที่สามารถมองเห็นได้จากตัวเรือนด้านหลังนั้น มีเหรียญรูปสิงโตสีทองที่เน้นย้ำถึงข้อเท็จจริงที่ว่านาฬิการุ่นนี้คือรุ่นพิเศษอย่างแท้จริง